ส.เอี่ยมพัฒนา | S-Eiam Pattana

แก้วไวน์ทำไมมีหลายแบบ ทำไมไวน์แต่ละชนิด ถึงใช้แก้วไม่เหมือนกัน

              การดื่มไวน์เป็นศิลปะอย่างหนึ่งที่สะท้อนสุนทรียภาพผ่านเครื่องดื่ม ที่ช่วยสร้างบรรยากาศ ในการพูดคุยและลิ้มรสชาติของอาหาร ทำให้การดื่มไวน์เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ชั้นสูง เพราะไวน์เป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน ไวน์แต่ละชนิดให้รสชาติที่แตกต่างกัน พันธุ์องุ่นที่ใช้ในการหมักไวน์ก็ทำให้ได้ไวน์ที่มีรสชาติที่แตกต่าง แม้แต่พื้นที่การเพาะปลูกที่ต่างกันต่อให้ใช้พันธุ์องุ่นเดียวกันก็อาจได้ไวน์ที่มีรสชาติ กลิ่น หรือแม้แต่ระดับแอลกอฮอล์ที่แตกต่างกัน ทำให้การดื่มไวน์ยิ่งต้องการความพิถีพิถัน เพราะความแตกต่างของ คุณภาพไวน์ที่ดื่ม วิธีการดื่ม อาหารที่ทานคู่กัน ประสบการณ์ในการลิ้มรสไวน์ ต่างก็มีผลต่อการเข้าถึงความรื่นรมย์ของรสไวน์  และอีกปัจจัยที่มีผลต่อการดื่มไวน์อย่างคาดไม่ถึง ก็คือ แก้วไวน์ (Wine Glass) การเลือกใช้แก้วไวน์ให้เหมาะกับไวน์ที่เลือกดื่ม เป็นปัจจัยเบื้องต้นที่ผู้ลุ่มหลงในรสไวน์ไม่ควรมองข้าม

🍷 ข้อดีของการเลือกแก้วไวน์ให้เหมาะกับไวน์ 🍷

              แก้วไวน์ประกอบด้วย ปากแก้ว ตัวแก้ว ก้านแก้ว และฐานแก้ว หากมองอย่างผิวเผินแล้ว แก้วไวน์ไหนๆ อาจจะดูคล้ายกันไปหมด แต่ที่จริงแล้วแก้วไวน์แต่ละแบบมีผลต่อการรับรู้รสชาติและกลิ่นไวน์ อย่างเช่นแก้วไวน์ที่มีปากกว้างจะเปิดให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับไวน์มากขึ้น ทำให้ไวน์ที่มีรสชาติเข้มข้น (Full-Bodied) มีความกลมกล่อมละมุนขึ้น เนื่องจากความเฝื่อนจากแทนนินลดลง และมีกลิ่นอโรม่าที่ซับซ้อนมากกว่าเดิม (Complexity) ยามที่ยกขึ้นดื่มกลิ่นหอมของไวน์จะถูกรวบรวมให้อบอวลอยู่ภายในแก้ว ทำให้เราสามารถสัมผัสรสชาติและกลิ่นได้ลึกซึ้งที่สุด

              ในทางตรงกันข้ามสำหรับไวน์ที่มีความเบาและให้ความรู้สึกสดชื่น (Light-Bodied) การที่เลือกใช้แก้วไวน์ที่มีปากกว้างจนไวน์สัมผัสกับอากาศมากเกินไป จะทำให้รสชาติและกลิ่นของไวน์ที่บางเบาอยู่แล้วให้จางหายไป ดังนั้นการเลือกใช้แก้วไวน์ให้เหมาะสมจะช่วยให้เราสามารถสัมผัสรสและกลิ่นของไวน์ได้อย่างแท้จริง

🍷 ประเภทของแก้วไวน์ 🍷

              เราสามารถแบ่งประเภทของแก้วไวน์ตามชนิดไวน์ที่เลือกดื่มออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่

  • แก้วสำหรับไวน์แดง (Red Wine Glass)

              แก้วที่ใช้สำหรับดื่มไวน์แดงจะมีลักษณะปากกว้าง ตัวแก้วเป็นทางอ้วนกลม มีขนาดใหญ่ ตัวเนื้อแก้วใสสะอาดเพื่อให้เราสามารถมองเห็นสีของไวน์แดงได้อย่างชัดเจน ส่วนตัวแก้วที่ปากกว้างและอ้วนกลมจะช่วยให้อากาศสามารถเข้าไปทำปฏิกิริยาทางเคมีกับไวน์แดงที่มีกลิ่นซับซ้อนและรสชาติเข้มข้น ทำให้ตัวไวน์นุ่มนวลขึ้นและจมูกของเราสามารถสัมผัสกลิ่นหอมของไวน์แดงได้ชัดเจนขึ้น  และเพื่อให้ได้รสชาติที่ดีที่สุดแก้วไวน์แดงแต่ละแบบควรเลือกใช้ให้เหมาะกับชนิดของไวน์แดงดังนี้

Bordeaux

              แก้วบอร์กโดซ์ (Large Bordeaux) และแก้วคาบาเน่ (Cabernet) แก้วไวน์แดงที่มีขนาดใหญ่กว่าแก้วไวน์ทั่วไป เพื่อให้ออกซิเจนหรืออากาศสามารถเข้าไปทำปฏิกิริยากับไวน์แดงในแก้วเวลาที่เราแกว่งแก้วไวน์ ได้มากขึ้นและความโค้งมนของตัวแก้วจะช่วยให้รวบรวมกลิ่นหอมของไวน์ที่ไม่ใช่กลิ่นแอลกอฮอล์ให้มารวมอยู่ใต้จมูกของเราได้มากที่สุด ซึ่งแก้วทั้งสองแบบนี้นิยมใช้กับไวน์เกือบทุกชนิด ยกเว้นไวน์แบบ Light-Bodied แก้วบอร์กโดซ์ และแก้วคาบาเน่ เหมาะกับไวน์แดงแบบ Full-Bodied ที่มีความฝาดหรือแทนนิน (Tannin) และความเข้มข้นสูง โดยมากมักเป็นไวน์ที่ได้จากองุ่นสายพันธุ์ Alicante Bouschet, Cabernet Sauvignon, Cabernet Franc, Bordeaux Blends เป็นต้น

Burgundy

              แก้วเบอร์กันดี (Burgundy glass) หรือ แก้วเบอร์กันดีกรองด์ครู (Grand Cru Burgundy) แก้วเบอร์กันดีเป็นแก้วไวน์ที่มีความสูงน้อยกว่าแก้วไวน์ชนิดอื่น แต่มีปากแก้วที่แคบ ในขณะที่ตัวแก้วหรือกระเปาะแก้วที่กว้างกว่าแก้วบอร์กโดซ์ ทำให้กักเก็บกลิ่นหอมของไวน์แดงให้อยู่ในแก้วได้ดีจนได้ฉายาว่า Aroma Collector และยังช่วยเพิ่มความเข้มข้นของรสชาติและความเปรี้ยว (Acidity) ของไวน์ได้ดี เหมาะกับไวน์แดง Light-Bodied หรือ ไวน์ที่มีแอลกอฮอล์ต่ำกว่า 12.5% ไปจนถึง Medium-Bodies แก้วเบอร์กันดีจึงเหมาะกับไวน์แดงที่มีมีความฝาดปานกลางแต่มีความเปรี้ยวสูงจากองุ่นสายพันธุ์ Pinot Noir, Dolcetto, Freisa, Gamay, St. Laurent, Schiava, Valpolicella, Red Burgundy เป็นต้น

  • แก้วสำหรับไวน์ขาว (White Wine Glass)

              แก้วสำหรับไวน์ขาวส่วนใหญ่จะมีขนาดเล็กเพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิให้เย็นและรักษาความเป็นกรดของไวน์ขาว ปากแก้วจะมีขนาดกลางๆ ไม่แคบหรือกว้าง ก้านจับจะค่อนข้างยาวกว่าแก้วไวน์แดง เพื่อป้องกันไม่ให้มือของเราสัมผัสกับตัวแก้วโดยตรงจนความร้อนจากมือทำให้ไวน์สูญเสียความเย็นเร็วเกินไป ซึ่งแก้วไวน์ขาวจะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ

Chardonnay

            แก้วชาร์โดเนย์ (Chardonnay) เป็นแก้วไวน์ขาวที่มีลักษณะตัวแก้วเป็นทรงถ้วยจุไวน์ได้มาก มีความตื้นมากกว่าแก้วไวน์อื่นๆ ปากแก้วกว้างเล็กน้อยเพื่อเราสามารถสัมผัสกลิ่นไวน์ขาวแบบ Full-Bodied ที่มีความซับซ้อนได้มากขึ้น และช่วยให้อากาศเข้าไปสัมผัสกับไวน์ได้อย่างรวดเร็วทำให้รสชาติของไวน์ขาว ละเอียดอ่อนและนุ่มนวลขึ้น เหมาะกับ Seuvignon Blanc, Oak-aged Chardonnay, Viognier, White Rioja เป็นต้น

Blanc

            แก้วโซวิญองบลอง (Sauvignon Blanc) แก้วสำหรับไวน์ขาวแบบ Light-Bodied ที่ให้ความรู้สึกสดชื่นมีรสชาติบางเบา หอมละมุน ซึ่งต้องการแก้วที่มีปากแคบ ก้านแก้วค่อนข้างยาว เพื่อไม่ให้อากาศเข้าไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับตัวไวน์จนสูญเสียรสชาติและกลิ่นหอม แก้วโซวิญองบลองเหมาะกับไวน์ขาว Light-Bodied ที่หมักจากองุ่นอย่างสายพันธุ์ Albariño, Sauvignon Blanc, Grüner Veltliner, Semillon, และยังเหมาะกับไวน์โรเซ่ (Rosé) เช่นกัน

  • แก้วสปาร์คกลิ้งไวน์ หรือ แก้วแชมเปญ (Sparkling Wine Glass or Champagne Glass)

            สปาร์คกลิ้งไวน์ หรือ แชมเปญ เป็นไวน์ที่มีความซ่าจากคาร์บอนไดออกไซด์ (Sparkling Carbonation) แก้วสำหรับสปาร์คกลิ้งไวน์ หรือ แชมเปญจะมีอยู่ 3 แบบได้แก่

Coupe

            แก้วคูเป้ (Coupe Glass) แก้วคูเป้จะเป็นแก้วสปาร์คกลิ้งไวน์แบบแรกๆ ที่ถูกผลิตขึ้นมา ซึ่งได้รับความนิยมมากในปี 1960 ตัวแก้วสั้นและตื้น คล้ายแก้วคอกเทล ตัวแก้วเป็นทรงโค้งปากแก้วกว้างช่วยกระจายกลิ่นหอมได้ดี แต่ไม่สามารถรักษาความซ่าและกลิ่นได้นานนัก ทำให้ไม่ค่อยได้รับความนิยมในปัจจุบัน

Tulip

            แก้วทิวลิป (Tulip Glass) แก้วทรงสูง ก้านแก้วยาว ตัวแก้วตรงกลางจะกว้างออกแต่ปากแก้วจะค่อนข้างแคบ ทำให้ทรงแก้วดูคล้ายดอกทิวลิป ตัวแก้วพอจะมีพื้นที่ให้อากาศเข้าไปผสมกับตัวสปาร์คกลิ้งไวน์ หรือ แชมเปญ ทำให้สามารกระจายกลิ่นได้ดีและได้รสสัมผัสที่ละมุนละไม เหมาะกับสปาร์คกลิ้งไวนที่มีรสชาติและกลิ่นไม่ซับซ้อน ไม่เน้นฟองหรือความซ่ามากนัก

Flute

            แก้วฟลุท (Flute Glass) ทรงแก้วมีลักษณะแคบและสูงหรือที่เรียกว่าทรงกระบอกตรง มีก้านแก้วยาว แตกต่างจากแก้วไวน์อื่นๆ ที่มักเป็นทรงถ้วยหรือเป็นกระเปาะ เพื่อช่วยเก็บความซ่าหรือคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ในแก้วได้นานขึ้น ทั้งยังช่วยให้กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยขึ้นมาเตะจมูกได้นานกว่า ทั้งยังช่วยให้มองเห็นฟองที่ลอยขึ้นมาเป็นทางยาวดูสวยงามสร้างความรื่นรมย์ในการดื่มให้มากขึ้น เหมาะกับ Cava, Prosecco, Champagne, sparkling wines

              นอกจากนี้แล้ว การเลือกแก้วไวน์ให้เหมาะกับไวน์แต่ละชนิดยังมีรายละเอียดที่เจาะลึกลงไปอีกมากมาย และยังขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความชื่นชอบของแต่ละบุคคล อย่างเช่นการเลือกใช้แก้วเบอร์กันดี (Burgundy glass) ที่เหมาะกับไวน์แดง Light-Bodied มาใช้ใส่ไวน์ขาวแบบ Full-Bodied ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์สูง ซึ่งช่วยทำให้รสของไวน์ขาว Full-Bodied มีความนุ่มนวลมากขึ้น จึงเป็นการตอกย้ำว่า การเลือกแก้วไวน์ให้เหมาะกับไวน์แต่ละชนิดจะยิ่งช่วยให้เราสามารถสัมผัสและดื่มด่ำไปกับรสชาติของไวน์ได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ ถ้าหากคุณเป็นผู้ที่สนใจหรือชื่นชอบในการดื่มไวน์แล้วล่ะก็ จะเห็นได้ว่าแก้วที่เลือกใช้นั้นมีผลอย่างมากต่อการดื่มไวน์ แต่หากยังสับสนงุนงงกับความแตกต่างของแก้วแต่ละชนิด ไม่รู้ว่าควรเลือกใช้แก้วแบบไหน ลองปรึกษาทาง ส.เอี่ยม ดูสิ เรามีจำหน่ายแก้วใสหลากหลายชนิด ถ้าไม่แน่ใจว่าควรใช้แก้วไวน์แบบไหน เรายินดีเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษา การันตีด้วยประสบการณ์ในวงการแก้วมากกว่า 30 ปี ว่าคุณจะได้รับแก้วที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการอย่างแน่นอน